กลองแอว
กลองแอวเป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองเหนือประเภทเครื่องตีชนิดขึงด้วยหนังหน้าเดียวเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับอิทธิพลมาจากพม่าและชนชาติไทยใหญ่ จัดเป็น
กลองประเภทเดียวกับกลองหลวงกลองปูเจ่ และกลองยาว เป็นกลองที่มีอยู่ประจำ วัด
เพื่อใช้ในวงกลองแอวประกอบการฟ้อนเมืองหรือเข้าขบวนแห่ในงานบุญต่างๆกลองแอวมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “กลองตึ่งนง” หรือ “กลองตึ่งโนง”
ลักษณะโดยทั่วไป
กลองแอวมีลักษณะโดยทั่วไปเหมือนกับกลองหลวงทุกประการแต่มีขนาดเล็กกว่าความยาววัดจากหนังหน้ากลองจนถึงปลายลำโพงยาวประมาณ ๑๗๓
เซนติเมตร ตัวกลองวัดจากขอบหนังหน้ากลองจนถึงคอหรือเอวกลองยาวประมาณ ๗๓ เซนติเมตรจากคอหรือเอวกลองไปจนถึงปลายลำโพงยาวประมาณ ๑๐๐ เซนติเมตร หน้ากลอง กว้างประมาณ
๒๙ เซนติเมตร ปลายลำโพงกว้างประมาณ ๓๒ เซนติเมตร หน้ากลอง ติดข้าวสุกผสมขี้เถ้า
(จ่า) ถ่วงเสียงให้เกิดความไพเราะเวลาตี คำว่า “แอว” ภาษาพื้นเมืองเหนือหมายถึง
“สะเอว” คำว่า กลองแอว จึงน่า
จะหมายถึงกลองที่มีสะเอวนั่นเอง
๑(เพราะมีลักษณะคอดกลางเหมือนสะเอว)ที่ ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองฯ จังหวัดแพร่ มีกลองแอวที่มีขนาดสั้นกว่า
คือ ยาวประมาณ ๙๐ เซนติเมตร หน้ากลองกว้างประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ปลายลำโพง
กว้างประมาณ ๒๙ เซนติเมตร เวลาเล่นใช้สะพายเข้าสะเอวตีเหมือนกลองปูเจ่ ดังนั้น
คำว่า กลองแอว จึงอาจมีความหมายว่า กลองที่ใช้สะพายเข้าสะเอวเวลาตี มากกว่า
ที่หมายถึงกลองที่มีสะเอว
วิธีเล่น
ถ้าเป็นการเล่นโดยการเคลื่อนที่จะต้องใช้คนหาม ๒ คน
หรือถ้าไม่เคลื่อนที่ก็ ต้องมีขาตั้ง เวลาเล่นประสมวงที่ตัวกลองแอวจะมีกลองตะโล้ดโป้ดแขวนไว้ติดกับตัวกลองแอวเพื่อใช้ตีประกอบกันด้วยกลองแอวนั้นจะตีเป็นจังหวะด้วยไม้ตีเพื่อให้ผู้ฟ้อนใช้จังหวะเป็นหลักในการฟ้อน
การประสมวง
กลองแอวตามปกติใช้เล่นประสมวงกันเรียกว่าวงกลองแอวเล่นร่วมกับเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆ
ใช้ประกอบการฟ้อนเมือง
โอกาสที่ใช้
ใช้บรรเลงประกอบการฟ้อนเมือง (ฟ้อนเล็บ ฟ้อนเทียน
ฟ้อนครัวทาน) ในงานปอยหลวง
แห่ครัวทานบวชลูกแก้ว ฯลฯ เป็นต้น